พรีออเดอร์จีน ไขความลับของธุรกิจ E-Commerce จีน

พรีออเดอร์จีน ไขความลับของธุรกิจ gettaoba พรีออเดอร์จีน พรีออเดอร์จีน ไขความลับของธุรกิจ E-Commerce จีน                                                                                                gettaoba

พรีออเดอร์จีน หากเอ่ยถึงตลาด E-Commerce แล้ว นอกเหนือจากสหรัฐอเมริกา ประเทศที่เป็นผู้นำการค้าอันดับ 1 ของโลก ทางฝั่งเอเชีย จีน…นับว่าเป็นประเทศ ที่มียอดค้าปลีกออนไลน์สูงมากเช่นเดียวกัน

โดยเฉพาะไตรมาสแรกของปี 2018 สูงถึง 1.4 ล้านล้านหยวน องค์กรวิจัยหลายแห่งเผยว่า ด้วยจำนวนประชากรชาวจีนที่เพิ่มสูงขึ้น ทำให้สินค้าจีนได้รับความสนใจจากต่างประเทศ จึงมีพรีออเดอร์จีนจำนวนมาก จนเกิดการค้าข้ามพรมแดน รวมทั้งการค้าขายออนไลน์ภายในประเทศก็เจริญรุดหน้าตามไปด้วย

จากข้อมูลของ China Internet Watch ผู้บริโภคชาวจีน ที่ซื้อสินค้าออนไลน์จากต่างประเทศคาดว่าจะเกิน 200 ล้านคนภายในปี 2020 และยอดขายสินค้าออนไลน์ทั้งหมดน่าจะทะลุสูงถึง 1.9 ล้านล้านหยวน จีน จึงถือเป็นประเทศที่น่าสนใจและน่าศึกษาเกี่ยวกับการทำตลาด E-Commerce เพื่อนำมาปรับใช้กับธุรกิจออนไลน์ในบ้านเรา

1.กลุ่มเป้าหมายตลาด E-Commerce ในจีน มีตั้งแต่เยาวชนไปจนถึงวัยทำงาน

จากรายงานของ China Internet Watch ระบุว่ากลุ่ม Millennials (คือคนที่เกิดในช่วง ปี ค.ศ. 1980 – 1996) และ Gen Z (คือคนที่เกิดช่วงปลาย ค.ศ. 1990 จนถึงต้น ค.ศ. 2000 หรือคนรุ่นใหม่นั่นเอง) คิดเป็น 85.1% ของยอดขายออนไลน์ในประเทศจีน ในมุมมองตัวเลขนี้ สะท้อนให้เห็นว่า 85.1% ของผู้ใช้บริการ E-Commerce จีนมีอายุระหว่าง 16 – 35 ปี ซึ่งทั้งสองกลุ่มนี้ มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อธุรกิจที่ต้องพึ่งพา E-Commerce ดังนั้น สิ่งนี้ควรคำนึงและสามารถนำมาสร้างเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดได้

สำหรับคนกลุ่ม Millennials และ Gen Z นี้ ส่วนใหญ่มักเป็นลูกคนเดียวในครอบครัวจีนสมัยใหม่ คนรุ่นนี้มักได้รับอิทธิพลจากต่างประเทศ เช่น นิยมเดินทางไปท่องเที่ยวหรือศึกษาต่อในต่างประเทศ ทำให้มีความคุ้นชินและนิยมสินค้าแบรนด์ต่างประเทศ แต่ในขณะเดียวกันเด็กรุ่นใหม่ของจีน ซึ่งเติบโตพร้อมกับยุคที่มีอินเทอร์เน็ต จึงเห็นการโฆษณาอย่างต่อเนื่องตลอดชีวิตของพวกเขา ทำให้โฆษณาเข้าถึงยาก อาจต้องมีการสร้างแคมเปญที่น่าดึงดูดใจ และมีการตอบโต้ที่สร้างขึ้นโดยเฉพาะเพื่อกำหนดกลุ่มเป้าหมาย โดยผู้บริโภคกลุ่มนี้ ต่างยินดีที่จะใช้จ่ายเงินเพื่อแสวงหาสิ่งที่ตอบโจทย์ความต้องการของพวกเขา

2.ธุรกิจเกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง เป็นธุรกิจเฟื่องฟูในจีน

คนจีนยุคใหม่นิยมเลี้ยงสัตว์ไม่แพ้คนไทยเลยทีเดียว สมาคมผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงของจีน รายงานข้อมูลว่าอัตราการเป็นเจ้าของสัตว์เลี้ยงของชาวจีน เพิ่มขึ้น 15% ต่อปี และเจ้าของสัตว์เลี้ยงกว่า 70% เป็นชาว Millennials ซึ่งนำไปสู่การเพิ่มขึ้นของผลิตภัณฑ์สัตว์เลี้ยงและมีการสั่งซื้อผ่านเว็บไซต์ช็อปปิ้งออนไลน์อย่างต่อเนื่อง

ปัจจุบันคนรุ่นใหม่ในประเทศจีนเริ่มชะลอการแต่งงานมากขึ้น ส่งผลให้หลายคนอยู่คนเดียวหรือส่วนใหญ่อยู่กับพ่อแม่ กลุ่มคน Millennials และ Gen-Z จำนวนมากจึงหันมาเลี้ยงสัตว์ เพื่อแก้ปัญหาความเหงาและชดเชยมิตรภาพ ตลาดสำหรับสัตว์เลี้ยงและสินค้าที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยงจึงเพิ่มสูงขึ้นเป็น 3 เท่าในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา

จากการวิจัยพบว่าตลาดสัตว์เลี้ยงในประเทศจีนมีมูลค่าสูงถึง 175 พันล้านหยวนในปี 2018 และเติบโตเป็น 198 พันล้านในปี 2019 อย่างไรก็ตาม สำหรับแนวโน้มเกี่ยวกับธุรกิจสัตว์เลี้ยงนี้ เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นเท่านั้น เนื่องจากจำนวนของสัตว์เลี้ยงที่มีเจ้าของอยู่เพียง 0.065 ต่อคนในประเทศจีน ซึ่งต่ำกว่าอัตรา 0.57 ในสหรัฐอเมริกา ทั้งนี้ ตลาดสัตว์เลี้ยงยังมองเห็นการเติบโตอย่างแน่นอน เนื่องจากประชากรจีนเลือกที่จะรับสัตว์เลี้ยงเข้าเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัว ถึงอย่างนั้นต่างประเทศก็สนใจผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยงที่ทางประเทศจีนได้มีการผลิตและพัฒนาให้กับคนรักสัตว์ ยังมีพรีออเดอร์จีนมาอยู่เรื่อยๆ ถือว่ายังได้รับความนิยมทั้งในและนอกประเทศ

3.ความนิยมในสังคมออนไลน์ ทำให้ E-Commerce เพิ่มสูงขึ้น

ผู้บริโภคชาวจีนมีจำนวนเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เจ้าของสินค้าจึงจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนโฆษณาแบบเดิม เนื่องจากผู้บริโภค มักเห็นโฆษณาเป็นจำนวนมากในแต่ละวัน แนวโน้มดังกล่าวจึงนำไปสู่ความนิยมที่เพิ่มขึ้นของ E-Commerce รูปแบบใหม่ ซึ่งเกี่ยวพันกับสังคมออนไลน์

ยกตัวอย่างเช่น Weibo Window เป็นตัวอย่างของ E-Commerce และ Social Media ที่ผสานกันได้อย่างลงตัว โดยผู้ใช้งานสามารถดูคำแนะนำของผลิตภัณฑ์และทำการซื้อได้ในแพลตฟอร์มเดียว จึงช่วยลดความยุ่งยากสำหรับลูกค้าและทำให้ลูกค้าสามารถตัดสินใจได้รวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมกับแอปพลิเคชั่นชำระเงินออนไลน์ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้ผู้บริโภค เช่น WeChat Pay และ Alipay ทำให้ขั้นตอนการช็อปปิ้งสินค้าเป็นไปอย่างราบรื่น

ขณะที่ผู้บริโภคเอง ก็มีการใช้โซเชียลมีเดียเพื่อทำการวิจัยผลิตภัณฑ์และมองหาแพลตฟอร์ม ที่สามารถช่วยให้คำแนะนำกับพวกเขาได้ เช่น XiaoHongShu (Little Red Book) ที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถค้นหาคำแนะนำที่ตรงไปตรงมาและทำรายการซื้อทั้งหมดได้บนแพลตฟอร์มเดียว ซึ่ง Wechat Stores, Weibo Window, Pinduoduo และ Xiaohongshu เป็นตัวอย่างของแนวโน้มใหม่ที่กำลังเติบโตของสังคม E-Commerce Online

4.ออกกฎหมายป้องกันสินค้า (ปลอม) ออนไลน์ ปี 2019

เนื่องจากจีน มีชื่อเสียงเกี่ยวกับการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ปลอมมายาวนาน ทำให้ทางรัฐบาลจีนออกกฎหมายฉบับล่าสุดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เรียกว่า ‘กฎหมายพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์’ (China E-Commerce Law : ECL) ฉบับแรก (ใช้เวลาร่างกฎหมาย 5 ปี ตั้งแต่ปี 2558) เพื่อจัดระเบียบการค้าออนไลน์และควบคุมกลุ่มคนที่เกี่ยวข้อง 4 กลุ่มคือ 1. เจ้าของแพลตฟอร์ม (Platform Operator) เช่น Taobao, JD.Com เป็นต้น 2. ผู้ขายสินค้าบนแพลตฟอร์ม (Operator on Platform) 3.ผู้มีเว็บไซต์และ Social Media ของตนเอง เช่น Wechat และ 4. การค้าแบบ ‘CBEC’ (การค้าแบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ข้ามแดน Cross Border E-Commerce : CBEC)

โดยกฎหมายฉบับดังกล่าว ออกมาเพื่อแก้ปัญหา 3 เรื่อง คือ ช่วยป้องกันสินค้าปลอมและป้องกันการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ยกระดับสินค้าที่เอาไปขายบนออนไลน์ต้องมีคุณภาพและมาตรฐาน ตลอดจนคุ้มครองผู้บริโภคที่ไม่ต้องการให้ถูกหลอกและเปรียบ เป็นต้น

ด้วยแนวโน้มการตลาด E-Commerce ของจีนที่มีการพัฒนา และมาตรการที่ช่วยคุ้มครองผู้บริโภค ทำให้ประเทศจีนตอนนี้เป็นผู้นำ E-Commerce ได้รับความสนใจทั้งภายในและภายนอกประเทศ ยังเป็นแหล่งส่งออกสินค้ารายใหญ่ในแถบทวีปเอเชีย ปัจจุบันสินค้าจากจีนนั้นมีมากมายมหาศาล หลากหลายหมวดหมู่และตอบโจทย์ต่อความต้องการของผู้บริโภค สามารถเลือกชมสินค้าหรือสามารถหาซื้อได้จากเว็บไซต์ชั้นนำของจีน ที่รวมร้านค้าที่มีการประเมินจากผู้บริโภคและมีการรับประกันสินค้าได้จาก Taobao และ Tmall มีร้านค้าให้ได้เลือกซื้อสินค้าเหมือนกับได้เดินอยู่ในห้างสรรพสินค้าจริงๆ 

Taobao และ Tmall ยังเป็นเว็บไซต์ที่มีการพรีออเดอร์จีนส่งออกไปต่างประเทศเป็นจำนวนมาก เนื่องจากร้านค้าได้มาตรฐาน สามารถตรวจสอบได้อย่างชัดเจน สิ่งสำคัญเลยคือ สินค้าถึงมือผู้ซื้อหรือผู้บริโภคแน่นอน ไม่ต้องกังวลว่าสินค้าที่ได้นั้นจะไม่ตรงปกหรือไม่มีมาตรฐาน เพราะ Taobao และ Tmall ล้วนคัดสรรสินค้าคุณภาพ เป็นไปตามกฎที่ทางผู้ขายจะต้องปฏิบัติและรับประกันสินค้าให้กับผู้บริโภค

และหากต้องการพรีออเดอร์จีนเพื่อนำเข้ามาในประเทศไทยไม่ใช่เรื่องยาก สามารถเลือกใช้บริการขนส่งสินค้าจากจีนมาไทย หรือบริการชิปปิ้งกับ Thaitopcargo มีบริการนำเข้าสินค้าและรับประกันสินค้าถึงมือลูกค้า เป็นไปตามมาตรฐานและปลอดภัย ศึกษาบริการได้ที่เงื่อนไขการบริการสามารถติดตามสถานะขนส่งสินค้าได้ตลอด 24 ชั่วโมง อัพเดททุกความเคลื่อนไหวของสินค้าไม่ให้คุณต้องระแวงว่าจะไม่ได้รับสินค้า

ใครที่กำลังคิดว่าการพรีออเดอร์จีนจากเว็บไซต์หลักทำได้ยาก เนื่องจากเมนูเป็นภาษาจีนทั้งหมด และมีขั้นตอนในการชำระเงินซับซ้อน สามารถใช้บริการพรีออเดอร์จีนกับเว็บไซต์ตัวกลางอย่าง Gettaoba เมนูภาษาไทย ขั้นตอนการสั่งซื้อสินค้าและเงื่อนไขการใช้บริการไม่ยุ่งยาก ให้เรื่องการสั่งซื้อสินค้าจากจีนกลายเป็นเรื่องง่ายๆ จากร้านค้าชั้นนำบนเว็บไซต์น่าเชื่อถือของจีนอย่าง Taobao และ Tmall