ชิปปิ้ง รู้จัก E-Commerce หมายถึง บริษัทและบุคคลลที่ขายสินค้าหรือบริการทางอิเล็กทรอนิกส์ สำหรับผลิตภัณฑ์บางอย่าง
ซึ่งในยุคนี้ สินค้าเกือบทุกประเภทนั้น มีจำหน่ายผ่านช่องทางออนไลน์ ทำให้สินค้าที่หายากในยุคก่อน หรือ มีขายแต่ในต่างประเทศ แต่ก็สามารถนำเข้าสินค้าหรือชิปปิ้งจากต่างประเทศได้ ปัจจุบันกลายเป็นทุกอย่างหาซื้อได้แค่ปลายนิ้วคลิก
สิ่งที่เจ้าของธุรกิจร้านค้าออนไลน์หรือเจ้าของธุรกิจ E-Commerce ต้องทำในยุคนี้ คือการแข่งขันทางการตลาด และจะทำอย่างไรที่จะมัดใจผู้บริโภคไว้ได้ Gettaoba ได้รวบรวมข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับสถิติ E-Commerce ที่ผ่านมาในปีก่อนๆ และคาดการณ์ถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคต อ้างอิงจากการรายงานของ Nielsen และ Shopify รวมทั้งบทความทางวิชาการจากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงระดับโลก เพื่อจะเป็นประโยชน์สำหรับผู้ประกอบการ เจ้าของธุรกิจ E-Commerce หรือธุรกิจชิปปิ้งในการปรับใช้ปี 2020
- ในปี 2021 จะมีผู้ซื้อดิจิทัลทั่วโลก 2.1 พันล้านราย เพิ่มขึ้นจาก 1.66 พันล้านรายในปี 2016
จำนวนผู้ซื้อออนไลน์กำลังพุ่งสูงขึ้น การค้าออนไลน์ได้รับความนิยมมากขึ้น และมีคนไว้วางใจในบริการประเภทนี้มากขึ้น ผู้บริโภคทำการหาข้อมูลเชิงลึกได้มากขึ้นเกี่ยวกับสินค้า เช่น อ่านรีวิวสินค้าก่อนตัดสินใจซื้อ และยังเพลิดเพลินไปกับข้อเสนอในราคาที่แตกต่างกันในแต่ละร้าน นอกจากนี้ ยังพบด้วยว่า เว็บไซต์ E-Commerce ที่ดีที่สุดจะช่วยดึงดูดลูกค้าได้มากที่สุด
- ผู้คนมากกว่า 4 พันล้านคน (53% ของประชากรโลก) เชื่อมต่อกับอินเตอร์เน็ตและเกือบทั้งหมดนั้น (92.6%) ใช้อุปกรณ์พกพาสำหรับออนไลน์
85% ของผู้ใช้ออนไลน์ (3.4 พันล้านคน) จะใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมงครึ่งในการท่องเว็บไซต์ ลูกค้าของร้านค้านั้นๆ ใช้เวลาออนไลน์เพิ่มมากขึ้น และมีส่วนร่วมในกิจกรรมที่หลากหลาย ความสามารถในการเข้าถึงออนไลน์ เทคโนโลยีมือถือ และนวัตกรรมดิจิทัลเป็นตัวกำหนดทางเลือกทางการตลาดของร้านค้า และเว็บไซต์ E-Commerce จำเป็นต้องมี หากร้านค้านั้นๆ ต้องการให้ลูกค้าเห็นและซื้อสิ่งที่ร้านค้าได้นำเสนอ
- 80% ของผู้ใช้อินเตอร์เน็ตในสหรัฐอเมริกา ทำการสั่งซื้อออนไลน์อย่างน้อย 1 รายการในปี 2019
สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากปี 2013 เมื่อตัวเลขอยู่ที่ 73%
- ผู้ซื้อออนไลน์ส่วนใหญ่ (42%) ต้องการชำระเงินด้วยบัตรเครดิต
แนวโน้มของ E-Commerce ถูกกำหนดโดยพฤติกรรมของผู้บริโภค ดังนั้นข้อมูลเชิงลึกเหล่านี้ จึงเป็นประโยชน์ต่อธุรกิจ ในสหรัฐอเมริกา มีผู้ถือบัตรเครดิตประมาณ 160 ล้านคน คิดเป็นครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งหมด ผู้ใช้บัตรเครดิตเหล่านี้เป็นลูกค้า E-Commerce ที่มีศักยภาพ และธุรกิจต่างๆ จะใช้เทคนิค E-Commerce หลายประเภทเพื่อดึงดูดผู้บริโภคเหล่านั้น
- 39% ของผู้ซื้อออนไลน์ ต้องการชำระค่าสินค้าและบริการออนไลน์ ผ่านบริการของ PayPal
วิธีการชำระเงินที่ได้รับความนิยมอันดับสองคือ PayPal ซึ่งเป็นการเชื่อมต่อโดยตรงกับบัญชีธนาคารของผู้ใช้ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องมีบัตรเครดิต และเนื่องจากผู้ซื้อสามารถชำระค่าสินค้าได้เลย ทำให้ผู้ขายได้รับเงินทันที ไม่ต้องรอเช็คผ่านธนาคาร แต่ก็ข้อเสียบางประการสำหรับ PayPal โดยเฉพาะเรื่องมาตรการรักษาความปลอดภัย แม้ว่าการทำธุรกรรมจะสารถทำได้อย่างรวดเร็ว แต่ถ้าร้านค้าดูน่าสงสัยหรือหลบเลี่ยง PayPal อาจถูกระงับการชำระเงินเป็น 21 วัน
- PayPal มีบัญชีที่ลงทะเบียนใช้งานอยู่ 267 ล้านบัญชีเมื่อปี 2018
ในไตรมาสแรกของปี 2019 มีบัญชีที่ใช้งานอยู่ 277 ล้านบัญชีทั่วโลก ซึ่งเพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบเป็นรายปีในปี 2002 PayPal ถูกซื้อโดยเว็บไซต์ประมูลอย่าง eBay เนื่องจากมองเห็นลู่ทางทำกำไรในอนาคต และทำให้การซื้อสินค้าออนไลน์ได้รับความนิยมตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา ตลาด E-Commerce ขยายตัวไปยังค้าปลีกและหน้าร้าน ในเดือนธันวาคม 2018 ผู้ค้าปลีกในอเมริกาเหนือ 36% ยอมรับ PayPal เป็นวิธีการชำระเงิน และอีก 34% วางแผนที่จะทำเช่นนั้นภายใน 24 เดือนข้างหน้า
- วันนี้ E-Commerce มีอิทธิพลมากถึง 56% ของการซื้อของในร้านค้า
E-Commerce เป็นมากกว่าเพียงแค่การซื้อของบนเว็บไซต์ หากไม่เข้าใจและใช้ประโยชน์จากความซับซ้อน และการรวมตัวกันของร้านค้าออนไลน์และออฟไลน์ มันไม่น่าเป็นไปได้ที่จะทำให้ธุรกิจเติบโต
- ในปี 2019 บริษัทแบบธุรกิจ B2B ใช้จ่ายเงินไปกับเทคโนโลยี E-Commerce มากกว่าผู้ค้าปลีกออนไลน์
ด้วยการรุกคืบของอินเตอร์เน็ตที่เพิ่มขึ้น ทั้งบนเดสก์ท็อปและอุปกรณ์มือถือ อนาคตของ E-Commerce จึงไปได้สวยและสดใสในแต่ละชั่วโมงที่ผ่านไป โดยคาดการณ์กันว่าจะมีจำนวนเพิ่มขึ้น ภายในปี 2021ผู้คนกว่า 2.14 พันล้านคนจะซื้อสินค้าและบริการออนไลน์เพิ่มขึ้นจาก 1.66 พันล้าน
- ในปี 2020 มูลค่าของการช็อปปิ้งออนไลน์และร้านค้าในสหราชอาณาจักร คาดว่าจะเพิ่มต่อเนื่องถึงปี 2026
ปี 2020 นี้ มูลค่าของสินค้าในร้านสะดวกซื้อ คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอีก 3 เท่า ผู้ค้าปลีกส่วนใหญ่ใช้จุดเก็บสินค้าในร้านสะดวกซื้อ ที่ทำการไปรษณีย์ และตู้เก็บของ การเก็บแบบ Click and Collect Model (เป็นบริการเลือกตามความสะดวกด้วยตัวเอง สามารถเลือกวันและเวลาที่ต้องการรับสินค้า และเลือกสถานที่ต้องการรับสินค้าได้ถึง 3 ช่องทางด้วยกัน เช่น ตู้ล็อกเกอร์อัตโนมัติ ส่งสินค้าถึงบ้านหรือสำนักงาน เป็นต้น)
ชิปปิ้งอ้างอิงข้อมูล : https://bit.ly/2RcSLFr